มัทฉะลาเต้ทำไมต้องเป็น Premium Matcha Latte Premix by SYNOVA

Shared Facebook

มัทฉะลาเต้ทำไมต้องเป็น Premium Matcha Latte Premix by SYNOVA
รู้จักมัทฉะลาเต้แบบมืออาชีพ ตั้งแต่การปลูกมัทฉะ คุณภาพใบชา แหล่งปลูกญี่ปุ่น พร้อมจุดเด่น Premium Matcha Latte Premix by SYNOVA


มัทฉะลาเต้ ชาเขียวนมเท่ๆ สไตล์ญี่ปุ่น

มัทฉะหรือผงชาเขียวคุณภาพสูงเป็นวัตถุดิบยอดฮิตจากแดนอาทิตย์อุทัยที่ไม่มีใครปฏิเสธรสชาติของมันได้เมื่อยามได้ลิ้มลอง เช่นเดียวกับความขมของกาแฟและโกโก้ รสขมฝาดที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของชาเขียวชั้นเลิศนั้นเข้ากันได้ดีกับรสของนม (และน้ำตาล) ทำให้มัทฉะกลายเป็นหนึ่งในเมนูเครื่องดื่มพื้นฐานที่ทุกคาเฟ่จะต้องเสิร์ฟให้แก่ลูกค้า

มัทฉะ ชาเขียว ผงชาเขียว ต่างแค่ชื่อ? หรือคนละอย่างกัน

จริงๆ แล้ว มัทฉะจัดเป็นชาเขียวชนิดหนึ่ง แต่สิ่งสำคัญที่สุดที่ทำให้มัทฉะแตกต่างจากชาเขียว (ใบชา) ทั่วไปก็คือ ขั้นตอนการผลิตมัทฉะที่จะนำใบชาเขียวมาโม่ด้วยโม่หินจนละเอียดเป็นผงแป้ง (Powder) จึงพูดได้ว่า “มัทฉะก็คือชาเขียวบดละเอียด” นั่นเอง หรือบางทีก็อาจเรียกว่า “ผงชาเขียว” แต่มีข้อควรระวังสักนิด เพราะบางครั้งผู้ผลิตก็ใช้คำว่าผงชาเขียวกับใบชาเขียวบดหยาบ (Tea Dust) ด้วย ซึ่งแน่นอนว่าเป็นผลิตภัณฑ์คนละชนิดกันและมีวิธีการชงดื่มต่างกันอย่างสิ้นเชิง

กล่าวคือใบชาเขียวบดหยาบนั้นชงโดยใช้วิธีแช่น้ำแล้วแยกกากชาออก แต่การชงมัทฉะจะใช้แปรงตีชาตีให้ผงชาละลายเข้ากับน้ำแล้วดื่มผงชาเข้าไปด้วยเลย

ความพิถีพิถันตั้งแต่การปลูก

เนื่องจากมัทฉะคือผงชาบดละเอียด ทุกอณูของผงชาจึงปลดปล่อยสารต่างๆ ออกมาได้อย่างเต็มที่ เวลาชงดื่มจึงให้รสชาติที่เข้มข้นมาก หากใบชาที่ใช้บดมีรสขม มัทฉะก็จะยิ่งขมมาก ดังนั้นชาวญี่ปุ่นจึงพัฒนากระบวนการปลูกชาให้สามารถลดความขมในใบชาลงได้รวมทั้งเพิ่มรสอูมามิขึ้นมาแทน กระบวนการนี้คือการคลุมแปลงชาด้วยร่มเงาเป็นเวลาหลายสัปดาห์ก่อนเก็บเกี่ยว วิธีการนี้ถูกนำมาใช้กับชาชั้นดีอย่าง เทนฉะ (ชาที่ใช้บดเป็นมัทฉะ) เกียวกุโระ และคาบุเซฉะ นี่จึงเป็นสาเหตุให้มัทฉะชั้นดีจากญี่ปุ่นมีความเข้มข้นและเต็มไปด้วยรสอูมามิ ส่วนความขมนั้นขึ้นอยู่กับคุณภาพของใบชา ใบชายิ่งคุณภาพสูงเท่าใด ความขมยิ่งน้อยลงเท่านั้น

มัทฉะขมดีหรือไม่ขมดี?

โดยทั่วไปชาเขียวมีรสขมจากสารคาเทชิน ซึ่งเป็นฟลาโวนอยด์ (Flavonoid) มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ ดังนั้น ชาเขียวยิ่งขมก็ยิ่งอุดมด้วยคุณประโยชน์ แต่ทว่ารสขมเกินไปก็เป็นสิ่งที่คนหลีกเลี่ยง ในทางตรงกันข้าม หากมัทฉะคุณภาพสูงมากๆ ก็จะไม่เหมาะกับการชงผสมกับนม เพราะรสของชาจะหายไปกับนมจนหมด มัทฉะที่มีความขมฝาดบ้างเล็กน้อยจึงเหมาะกับการชงเป็น “มัทฉะลาเต้” มากกว่ามัทฉะคุณภาพสูงลิ่วอย่างที่ใช้ในพิธีชงชาของญี่ปุ่น

 

แหล่งปลูกมัทฉะที่ดีที่สุด

นอกจากคุณภาพของมัทฉะจะขึ้นอยู่กับความพิถีพิถันในการปลูกแล้ว ในบรรดามัทฉะเกรดพรีเมี่ยมด้วยกันเอง ก็ยังแตกต่างกันไปตามสายพันธุ์ย่อยและแหล่งปลูกซึ่งเป็นตัวกำหนดปัจจัยต่างๆ เช่น ความสูงจากระดับน้ำทะเล ความชื้น กระแสลม ปริมาณแสงแดด ความแตกต่างของอุณหภูมิกลางวัน-กลางคืน ส่งผลให้มัทฉะจากแต่ละแหล่งปลูกมีเอกลักษณ์แตกต่างกันไป โดยในปัจจุบัน แหล่งปลูก (Terroir) ชาเขียวที่ดีที่สุดในญี่ปุ่นได้แก่ เกียวโต-อูจิ (Kyoto-Uji) ฟุกุโอกะ (Fukuoka) ชิสุโอกะ (Shizuoka) คาโกชิมะ (Kagoshima) และ ไอจิ-นิชิโอะ (Aiji-Nishio) โดยชิสึโอกะเป็นแหล่งปลูกชาเขียวที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่นด้วย มีอัตราการผลิตนับเป็น 40% ของทั้งประเทศ

 

ทำไมต้องเป็น Premium Matcha Latte Premix by SYNOVA

แม้ว่ามัทฉะจะเป็นที่รู้จักในวงกว้างมานาน แต่ก็ยังไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับผู้ประกอบการรายใหม่ที่จะหามัทฉะที่เหมาะสมสักตัวหนึ่งเพื่อใช้เป็นวัตถุดิบหลักของร้าน ด้วยเล็งเห็นถึงความยุ่งยากที่ผู้ประกอบการต้องประสบพบเจอ SYNOVA จึงเลือกมัทฉะจากเมืองหลวงแห่งชาเขียวอย่างเมืองชิสุโอกะ ซึ่งมีกลิ่นหอมเป็นอัตลักษณ์จากดินที่อุดมไปด้วยแร่ภูเขาไฟที่มีชื่อเสียงอย่างฟูจิยามะมาปรุงเป็น Premium Matcha Latte Premix เพื่อความสะดวกรวดเร็วในการเตรียมเมนูมัทฉะลาเต้ที่แสนอร่อย เหมาะสำหรับผู้ประกอบรายใหม่รวมทั้งผู้ประกอบที่กำลังเสาะหาวัตถุดิบที่ลงตัวทั้งรสชาติและความคุ้มค่าของราคา

 

ความได้เปรียบของ Premium Matcha Latte Premix

-สะดวก รวดเร็ว ง่ายต่อการบริหารจัดการ ทั้งสต็อคและการเตรียมเมนู

-ควบคุมคุณภาพได้ รสชาติอร่อยเหมือนเดิมทุกครั้งที่ชง

-ช่วยลดต้นทุน ประหยัดค่าใช้จ่ายของร้านได้หลายทาง

 

คุณสมบัติสินค้า

ผลิตภายใต้กระบวนการที่ได้มาตรฐาน GMP HACCP และ HALAL

ควรเก็บในที่แห้งและเย็น (อุณหภูมิไม่เกิน 28 องศาเซลเซียส)

สินค้าอยู่ในคุณภาพดีที่สุด 1 ปีจากวันที่ผลิต และ 3 เดือนนับจากวันที่เปิดใช้

ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม

Synova Line OA
กิจกรรมเพิ่มเติม