ตีมัทฉะแบบไหนดีที่สุด? เปรียบเทียบ 4 วิธีชงมัทฉะยอดฮิต พร้อมข้อดี-ข้อควรระวัง

ตีมัทฉะแบบไหนดีที่สุด? เปรียบเทียบ 4 วิธีชงมัทฉะยอดฮิต พร้อมข้อดี-ข้อควรระวัง

มัทฉะ (Matcha) ไม่ได้เป็นเพียงแค่ผงชาเขียวเท่านั้น แต่ยังเป็นศิลปะ และวัฒนธรรมแห่งจิตวิญญาณอีกด้วย พูดถึงเฉพาะการเตรียมชาเพียงอย่างเดียว ก็มีรายละเอียดมากมายแล้ว อุปกรณ์ที่ใช้ในการตีชามัทฉะมาแต่โบราณก็คือ “ฉะเซน” แปรงไม้ไผ่ที่ต้องใช้ฝีมือในการผลิต นอกจากจะมีประสิทธิภาพสูงในการตีมัทฉะให้เกิดฟองเนียนละเอียดแล้ว ยังทรงคุณค่าทั้งทางสุนทรียะอีกด้วย

อย่างไรก็ตาม เมื่อกาลเวลาผ่านไป อุปกรณ์ในการตีมัทฉะก็มีให้เลือกมากขึ้นและทันสมัยมากขึ้นด้วย ในปัจจุบันนั้น เมื่อจะตีมัทฉะสามารถเลือกใช้ได้ทั้งที่ตีฟองไฟฟ้า เครื่องปั่นหรือเบลนเดอร์ หรือกระบอกเชค ซึ่งอุปกรณ์แต่ละประเภทนั้นมีผลต่อทั้ง “เนื้อสัมผัส” และ “รสชาติ” ของมัทฉะอย่างมีนัยสำคัญ ในบทความนี้ เราจะพาไปดูว่าอุปกรณ์แต่ละชนิด มีจุดดีจุดด้อยอย่างไร ให้ผลลัพธ์แบบไหน และเหมาะกับการชงมัทฉะแบบใดบ้าง


1. แปรงไม้ไผ่ (Chasen)

ข้อดี:

  • ผงมัทฉะแตกตัวดีที่สุด ไม่เป็นเม็ดเป็นก้อน
  • เลือกตีให้ขึ้นฟองหรือไม่ขึ้นฟองก็ได้ แล้วแต่ความต้องการ
  • เหมาะสำหรับชงมัทฉะลาเต้แบบร้อน ที่ต้องเทลาเต้อาร์ตสวยๆ เพราะตีชาแบบไม่ให้ขึ้นฟองได้ (ถ้าตีมัทฉะมีฟองจะเทลาเต้อาร์ตไม่สวย)
  • ไม่ต้องใช้ไฟฟ้า
  • ได้ฟองชาละเอียดเนียนนุ่มที่สุด

ข้อสังเกต:

  • ใช้เวลานานกว่าวิธีอื่น
  • คนชงต้องฝึกฝนทักษะในการตี
  • ต้องดูแลแปรงให้แห้งดีหลังใช้งาน เพราะแปรงไม้ไผ่ขึ้นราได้
  • แปรงไม้ไผ่เสียหายได้ง่ายถ้าใช้งานไม่ระวัง

เหมาะกับ:
ทุกเมนูที่ไม่เร่งรีบ โดยเฉพาะพิธีชงชาทั้ง Usucha และ Koicha / เมนูที่เสิร์ฟแบบร้อน / มัทฉะเดอร์ตี้ / เมนูที่ต้องการเน้นความคลาสสิก


2. เครื่องตีฟองนมไฟฟ้า (Milk Frother)

ข้อดี:

  • เหมาะสำหรับชงครั้งละหลายๆ เสิร์ฟ
  • ไม่ต้องใช้ทักษะในการตีฟอง
  • รวดเร็ว ประหยัดเวลา

ข้อสังเกต:

  • ได้ฟองเยอะแต่ฟองค่อนข้างหยาบ
  • รสชาติไม่นุ่มนวลเท่าใช้แปรงไม้ไผ่
  • มัทฉะมักจะแตกตัวไม่หมด ยังเป็นเม็ดเล็กๆ อยู่

เหมาะกับ:
เมนูมัทฉะลาเต้เย็น / เคลียร์มัทฉะเย็น / เมนูที่ต้องการความเร็ว


3. เครื่องปั่น (Blender)

ข้อดี:

  • เหมาะกับเมนูปั่นโดยเฉพาะ
  • สะดวก รวดเร็ว
  • ทำได้หลายเสิร์ฟในครั้งเดียว

ข้อควรระวัง:

  • ไม่เหมาะตีผงมัทฉะสำหรับเมนูร้อน
  • ได้ฟองชาหยาบๆ
  • ผงชามักแตกตัวไม่หมด
  • ต้องล้างอุปกรณ์หลายชิ้น
  • เสียงดัง

เหมาะกับ:
มัทฉะสมูทตี้ / เครื่องดื่มที่ผสมส่วนผสมหลายอย่าง


4. กระบอกเชค (Shaker)

ข้อดี:

  • ชงง่าย สะดวก เขย่าพร้อมน้ำแข็งและน้ำเชื่อมได้เลย
  • รวดเร็ว ประหยัดเวลา
  • ไม่ต้องใช้ไฟฟ้า

ข้อสังเกต:

  • เกิดฟองน้อยกว่าวิธีอื่น
  • กระบอกเชคใช้เขย่าน้ำร้อนหรือนมร้อนไม่ได้ (เกิดแรงดัน)
  • มัทฉะมักจะแตกตัวไม่หมด ยังเห็นเป็นก้อนเป็นเม็ดอยู่
  • ใช้แรงและทักษะในการเขย่าพอสมควร

เหมาะกับ:
มัทฉะลาเต้เย็น / เคลียร์มัทฉะเย็น / ชาใสสไตล์ไต้หวัน / บรรจุขวดพร้อมดื่ม


สรุป: วิธีไหนดีสุด?

เป็นเรื่องยากที่จะฟันธงลงไปว่าวิธีที่ดีที่สุดในการตีมัทฉะคือวิธีใด เพราะต่างก็มีข้อดีข้อด้อยแตกต่างกันไป จึงอาจพูดได้ว่า ไม่มีวิธีการที่ดีที่สุด มีเพียงวิธีที่เหมาะสมที่สุดในแต่ละสถานการณ์ ดังนั้น เราจึงควรเลือกวิธีการชงมัทฉะให้เหมาะกับจุดประสงค์ที่ต้องการ เช่น หากต้องการแสดงความพิถีพิถันและวัฒนธรรม ก็ควรเลือกใช้ฉะเซน แต่หากต้องการความรวดเร็วในการชงมัทฉะคราวละหลายๆ แก้ว ก็ควรเลือกใช้ที่ตีฟองนมไฟฟ้าหรือเครื่องปั่นก็จะเหมาะสมกว่า

กิจกรรมเพิ่มเติม